1 ม.ค. |
รังสีเอกซ์
ใน1896 Wilhelm Roentgen นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน
ได้ประกาศการค้นพบรังสีเอกซ์ เขาได้ส่งสำเนาของต้นฉบับ
และภาพถ่ายรังสีเอกซ์จำนวนหนึ่ง ไปให้แก่เพื่อนๆ
และนักฟิสิกส์ที่มีชื่อเสียงหลายคน รวมทั้ง Lord Kelvin ที่
Glasgow และ Henre Poincare ที่กรุงปารีส สี่วันต่อมา ในวันที่ 5
มกราคม 1896 หนังสือพิมพ์ Die Presse ได้ตีพิมพ์ข่าวนี้ในหน้าแรก
โดยมีบทความที่บรรยายถึงการค้นพบ
และได้นำเสนอถึงการนำรังสีชนิดใหม่นี้
ไปใช้ในการวินิจฉัยทางการแพทย์ วันต่อมา the London Standard
ได้ส่งข่าวนี้ไปยังประเทศอื่นทั่วโลก โดยบรรยายในตอนต้นว่า เป็น
แสงที่ใช้ในการถ่ายภาพที่สามารถส่องทะลุไม้ เนื้อหนัง เสื้อผ้า
และทุกส่วนของร่างกาย |
5 ม.ค. |
รังสีเอกซ์ ในปี
1896 หนังสือพิมพ์ Wiener Presse ของออสเตรีย
ได้ตีพิมพ์เรื่องการค้นพบรังสีชนิดใหม่ โดยนักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน
ที่ต่อมารู้จักกันในชื่อ รังสีเอกซ์ |
11 ม.ค. |
Francium ในปี 1930 ธาตุฟรานเชียม Fr
(francium) ถูกค้นพบ
|
12 ม.ค. |
การทดลองนิวเคลียร์ ในปี 1965
เวลา 10:58 น. ได้มีการทดลองจรวดที่ใช้เชื้อเพลิงนิวเคลียร์
ที่รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา
ทำให้เกิดกลุ่มเมฆกัมมันตรังสีปกคลุมเหนือลอสแองเจลิส |
12 ม.ค. |
การถ่ายภาพด้วยรังสีเอกซ์ครั้งแรก
ในปี 1896 Dr. Henry Louis Smith
ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ทางฟิสิกส์และดาราศาสตร์ ของ Davidson
College, Davidson, N.C. ได้ถ่ายภาพโดยใช้รังสีเอกซ์เป็นครั้งแรก
โดยทำการทดลองยิงลูกปืนไปยังมือของศพ
แล้วถ่ายภาพโดยใช้เวลาในการถ่าย 15 นาที
แสดงให้เห็นลูกปืนที่อยู่ภายในมือของศพ |
16 ม.ค. |
เฟอร์เมียม
(Fermium) ในปี 1953
มีการทดลองเพื่อวิเคราะห์ชนิดของธาตุ เฟอร์เมียม (fermium, Fm)
ซึ่งมีเลขอะตอม 100 เป็นครั้งแรก โดยมีตัวอย่างอยู่ประมาณ 200
อะตอม ด้วยวิธี ion-exchange chromatography
ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย Berkeley
ซึ่งได้มาจากการสกัดจากตัวอย่างที่เกิดจากการทดลองระเบิดไฮโดรเจน
ในปฏิบัติการ "Mike" ซึ่งทำการทดลองที่หมู่เกาะ Eniwetok Atoll
ในมหาสมุทรแปซิฟิก
การเก็บตัวอย่างใช้เครื่องบินบังคับวิทยุแล่นเข้าไปในเมฆที่เกิดขึ้นจากการระเบิด
เรื่องนี้ถูกเก็บเป็นความลับอยู่จนถึงปี 1955
จึงได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Physics Review v.99 ฉบับ 1048
เนื่องจากมีอายุที่สั้นมาก
นักวิทยาศาสตร์จึงไม่มั่นใจในน้ำหนักอะตอมที่แน่นอน
เฟอร์เมียมถูกค้นพบเป็นธาตุที่ 8 ในกลุ่มธาตุ transuranium
ในอนุกรม actinide โดยได้รับการตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่
Enrico Fermi |
17 ม.ค. |
Synchrotron
ในปี 1949 เป็นครั้งแรกที่มีการปลดปล่อยพลังงานออกจาก
synchrotron เครื่องแรกที่ถูกติดตั้งในห้องปฏิบัติการรังสี
ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย Berkeley เครื่อง synchrotron
เครื่องนี้ออกแบบโดย Edwin Mattison จากมหาวิทยาลัยเดียวกัน
และสร้างโดย the General Electric Research Laboratory at
Schnectady กรุงนิวยอร์ก โดย Dr. Herbert C. Pollock และ Willem
F. Westendorp ใช้สำหรับเร่งอิเล็กตรอนซึ่งมีประจุลบ
โดยใช้แม่เหล็กแบบ betatron ที่มีน้ำหนักประมาณ 8 ตัน |
18 ม.ค. |
จัดแสดงอุปกรณ์ถ่ายภาพด้วยรังสีเอกซ์
ในปี 1896
มีการจัดแสดงอุปกรณ์ถ่ายภาพด้วยรังสีเอกซ์เครื่องแรก ที่ Casino
Chambers กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยเก็บเงินค่าเข้าชม 25
เซนต์ |
20 ม.ค. |
รังสีเอกซ์ (X-rays)
ในปี 1896
มีการติดตั้งเครื่องถ่ายภาพด้วยรังสีเอกซ์สำหรับใช้ทางการแพทย์เป็นครั้งแรก
ทั้งในสหรัฐอเมริกาและเยอรมัน |
21 ม.ค. |
เรือดำน้ำปรมาณู ในปี 1954
เรือดำน้ำปรมาณูลำแรกชื่อ U.S.S. Nautilus เริ่มปฏิบัติการที่
Groton รัฐคอนเนคติกัต สหรัฐอเมริกา เรือดำน้ำ Nautilus
ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์
ซึ่งถือเป็นจุดเด่นในประวัติศาสตร์
ด้านวิศวกรรมการต่อเรือและยานดำน้ำของอเมริกา
ทำให้เรือดำน้ำที่ผลิตขึ้นก่อนหน้านั้นกลายเป็นแค่
ยานที่ดำน้ำได้เท่านั้น เพราะเรือดำน้ำนอติลุส
ใช้พลังงานนิวเคลียร์ ทำให้สามารถอยู่ใต้น้ำได้หลายเดือน
ต่างจากเรือดำน้ำที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล
ที่ต้องใช้ออกซิเจนปริมาณมากในการสันดาป
จึงต้องลอยตัวขึ้นมาเติมอากาศเป็นระยะๆ ในปี 1958
นอติลุสได้ดำน้ำลอดใต้น้ำแข็งอาร์กติกไปที่ขั้วโลกเหนือ
นอติลุสปฏิบัติหน้าที่จนถึงปี 1980 จึงกลับบ้านเก่าที่ Groton
|
21 ม.ค. |
แมกนีเซียม ในปี
1941 เริ่มมีการผลิตแมกนีเซียมในเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก
ในสหรัฐอเมริกา ที่เมือง Freeport รัฐเทกซัส
แมกนีเซียมเป็นโลหะที่เบาที่สุด
สามารถสกัดได้จากน้ำทะเลด้วยวิธีแยกด้วยไฟฟ้า โดย Herbert H. Dow
ได้สกัดโลหะออกจากน้ำทะเลเป็นครั้งแรกในปี 1916 ที่ Midland
รัฐมิชิแกน โรงงานแมกนีเซียมของ Dow
มีบทบาทสำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เมื่อมีความต้องการใช้โลหะที่มีน้ำหนักเบาสำหรับผลิตเครื่องบิน
เนื่องจากกองทัพสหรัฐได้ขยายกำลังการผลิตเครื่องบิน
ซึ่งแต่ละลำต้องใช้แมกนีเซียมถึง 2,000 ปอนด์
ในปัจจุบันไม่มีการใช้โลหะผสมหรืออัลลอยด์ของแมกนีเซียมในการผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์แล้ว
บริษัท Dow Chemical Co. ได้ประกาศที่จะปิดโรงงานที่ Freeport
เนื่องจากพายุ Gulf Coast
ได้ทำความเสียหายอย่างหนักให้กับโรงงงาน |
22 ม.ค. |
ฟิชชันของยูเรเนียม ในปี 1939
อะตอมของยูเรเนียมแตกออกเป็นครั้งแรกโดยใช้เครื่องเร่งอนุภาคแบบ
cyclotron ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย กรุงนิวยอร์ก
หลังจากที่โครงการแมนฮัตตันได้ริเริ่มในการทำระเบิดอะตอม
ต่อมาโครงการนี้ได้ย้ายไปอยู่ที่มหาวิทยาลัยชิคาโก
เพื่อให้รอดพ้นจากโอกาสที่จะถูกเยอรมันมาทิ้งระเบิด
ไซโคลตรอนซึ่งใช้ในการทดลองปฏิกิริยาฟิชชันเป็นครั้งแรกออกแบบและสร้างโดย
John Dunning ซึ่งต่อมาได้เป็นคณบดีของ Engineering School ในปี
1950-1969
ไซโคลตรอนเครื่องนี้ได้ถูกย้ายไปตั้งแสดงอยู่ที่สถาบันสมิตโซเนียน
ในปี 1965 ผู้ที่ประดิษฐ์ไซโคลตรอนเครื่องแรกคือ Ernest Lawrence
นักฟิสิกส์ชาวอเมริกัน |
23 ม.ค. |
รังสีเอกซ์ ในปี1896 Wilhelm
Roentgen ได้บรรยายและสาธิตอุปกรณ์รังสีเอกซ์
ต่อสาธาณชนเป็นครั้งแรก ที่เมือง Werzburg ประเทศเยอรมัน |
25 ม.ค. |
นาฬิกาอะตอม ในปี
1955 นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียได้พัฒนานาฬิกาอะตอม
ซึ่งมีความเที่ยงตรงสูง โดยมีความผิดพลาดเพียง 1 วินาทีใน 300 ปี
|
26 ม.ค. |
Cyclotron ในปี
1932 สำนักงานสิทธิบัตรของสหรัฐอเมริกา
ได้รับการขอจดสิทธิบัตรเครื่องเร่งอนุภาคไซโคลตรอนของ Ernest
Orlando Lawrence ในปี 1939
เขาได้รับรางวัลโนเบลจากผลงานประดิษฐ์
เครื่องยิงอะตอมชิ้นนี้ |
28 ม.ค. |
พลังงานอะตอม
ในปี 1958 เริ่มมีการสร้างเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณูผลิตไฟฟ้า
แบบยูเรเนียม-ทอเรียม ของเอกชนเป็นเครื่องแรก
และเป็นครั้งแรกที่มีการออกแบบเครื่องปฏิกรณ์ฯ
ที่เสริมเชื้อเพลิงยูเรเนียม-235 ด้วย ทอเรียม-232
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Indian Point เครื่องนี้อยู่ที่เมือง
Buchanan รัฐนิวยอร์ก ใช้เงินลงทุนไป 100 ล้านเหรียญ
เป็นเครื่องปฏิกรณ์แบบใช้น้ำความดันสูง ให้กำลังไฟฟ้า 275,000
กิโลวัตต์ ดำเนินการออกแบบก่อสร้างโดย Babcock and Wilcox Co.
ให้กับ Consolidated Edison Co. โรงไฟฟ้า Indian Point 1
ได้รับใบอนุญาตเดินเครื่องเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 1962
และปิดตัวลงเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 1974 |
28 ม.ค. |
ไอน์สไตน์
(Einstein) ในปี 1921
ไอน์สไตน์ได้ทำให้เกิดความตื่นเต้นขึ้นในกรุงเบอร์ลิน
เมื่อเขาเสนอว่าสามารถวัดขนาดของจักรวาลได้ |
29 ม.ค. |
การรักษาด้วยรังสี ในปี 1896
Omil H. Grubbe นักวิจัยชาวชิคาโก สหรัฐอเมริกา
เป็นคนแรกที่ใช้รังสีเอกซ์ ในการรักษา มะเร็งทรวงอกในกับสตรีอายุ
55 ปี รังสีเอกซ์ได้รับการค้นพบ 1
ปีก่อนหน้านั้นที่ประเทศเยอรมัน Grubbe
ได้ทดลองใช้รังสีรักษามะเร็ง
หลังจากที่เขาพบว่ามีการไหม้เกิดขึ้นจากรังสีเอกซ์
การทดลองของเขาไม่สามารถรักษามะเร็งให้กับผู้ป่วยรายนั้นได้
แต่หลังจากนั้น ในปลายปี 1890
จากการใช้รังสีเอกซ์รักษามะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งผิวหนัง
ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ป่วยดีขึ้น เจ็บปวดน้อยลง
และสามารถหายได้ในบางราย
ทำให้มีการศึกษาและการใช้รังสีเอกซ์มาอย่างต่อเนื่อง Grubbe
ไม่ได้ตีพิมพ์ผลงานของเขา จนกระทั่งหลายปีต่อมา
ทำให้หลายคนตั้งข้อสงสัยกับการที่เขาอ้างว่าเป็นคนแรกที่นำรังสีรักษามาใช้ |
30 ม.ค. |
ระเบิดไฮโดรเจน (Hydrogen
bomb) ในปี 1950
มีการพัฒนาการทำระเบิดแบบฟิวชันของไฮโดรเจน (H-bomb)
ตามคำสั่งของประธานาธิบดีทรูแมน การใช้ชื่อรหัสโครงการว่า
"Super" แสดงถึงพลังงานของระเบิดเทอร์โมนิวเคลียร์
ที่สูงมากกว่าระเบิดแบบฟิชชันที่ใช้ตอนปลายสงครามโลกครั้งที่ 2
มาก |
31 ม.ค. |
ระเบิดไฮโดรเจนของสหรัฐอเมริกา
ในปี 1950 ประธานาธิบดี Harry S. Truman
ได้ประกาศโครงการพัฒนาระเบิดไฮโดรเจนอเมริกัน (American hydrogen
bomb)
|