ขั้นตอนการผลิต
การผลิตเหล็กกล้า ในการผลิตเหล็กกล้าคือ
การนำแร่เหล็กมาผลิตในเตาสูงการผลิตเหล็กดิบในเตาสูงซึ่ง
เป็นเตาที่มี
ความสูง ประมาณ 40 เมตร
กว้าง ประมาณ 15
เมตร สร้างจากแผ่นเหล็กกล้า โดยมีตัวเคลือบผนังเตา
ทำด้วยอิฐทนความ
ร้อนมีท่อลมร้อนเข้า(Hot Blast
Air)และท่อน้ำหล่อเย็น ที่ผนังอิฐเพื่อลดอุณหภูมิของเตาวัตถุดิบที่ใส่ลงไปในเตาถลุงมีดังนี้
สินแร่เหล็ก
(Iron Ores) ประเภทออกไซด์
เช่น แมกเนไทต์ (Fe3O4)
เฮมาไทต์
(Fe2O3)
ซิเดอไรต์ (FeCO3)
และลิมอไนต์ (Fe2O3-xH2O)
โดยการนำไปย่อยบดอัดให้เป็นก้อนกลม
(Pellets) และผงละเอียด
(Sinters)
ถ่านโค้ก
(Coke) เป็นเชื้อเพลิงที่ใช้ในการถลุงสินแร่เหล็ก
และตัวทำปฏิกิริยากับสินแร่เหล็กในขณะที่มีการหลอมละลาย
ทำให้เหล็กดิบที่ได้มีธาตุคาร์บอนเพิ่มขึ้น ซึ่งถ่านโค้กเป็นถ่านหิน(Coal)
ประเภทหนึ่ง
หินปูน (Limestone)
หรือแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3)
ที่ผ่านการบดอัดเป็นก้อน ความร้อนจากถ่านโค้กทำให้หินปูน
สลายตัว ทำหน้าที่เป็น ฟลักซ์ (Flux)
คอยผสมกับสารเจือปน หรือสารมลทิน เช่น กำมะถัน และ ฟอสฟอรัสซึ่ง จะต้องมีการ
กำจัดออกมา โดยการระบายออกมาในรูปของขี้ตะกรัน (Slag)
และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ซึ่งในระหว่างที่มีการเกิดปฏิกิริยาภาย
ในเตา หินปูนยังทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาลดออกซิเจนภายในเตา
วิธีการถลุงสินแร่เหล็ก
สินแร่เหล็ก หินปูน
และถ่านโค้ก บรรจุเข้าด้านบนของเตาเรียงแยกกันเป็นชั้นๆ
โดยใช้รถลาก (Skip Car) เป็นตัวช่วย
ดึงเข้าสู่ด้านบน ภายในเตามีความร้อนที่ได้มาจากการเผาไหม้ของถ่านโค้ก
โดยมีลมร้อนเป่ามาจากด้านล่างของเตา หินปูน
จะรวมตัวกับสารมลทินต่าง ๆ ที่ลอยอยู่ด้านบนของน้ำเหล็ก
เกิดขี้ตะกรัน (Slag) ซึ่ง จะได้ส่วนที่เหลือเป็นน้ำเหล็กที่ออกมา
จากรูเจาะด้านล่างของเตา และเทลงในแบบหล่อที่เตรียมไว้ เพื่อทำเป็นเหล็กกล้า หรือเหล็กหล่อ
ต่อไปผลผลิตที่ได้จากการ
ถลุงสินแร่เหล็กเหล็กดิบ ที่ผลิตได้จะมีธาตุอื่น ๆ ปนอยู่ในเนื้อเหล็กโดยประมาณ ดังนี้
คาร์บอน = 3 5% ซิลิคอน
= 1 - 4% ฟอสฟอรัส = 0.1
- 2% กำมะถัน = 0.05
0.2% และ แมงกานีส = 0.2
2.5%
เหล็กดิบที่สำคัญมีอยู่
2 ประเภท คือ
เหล็กดิบสีขาว (White
Pig Iron) เหล็กดิบประเภทนี้มีธาตุแมงกานีส
(Mn) เป็นส่วนผสมที่ทำให้คาร์บอนรวมตัวกับเนื้อ
เหล็กในรูปของเหล็กคาร์ไบด์ (Fe3C)
หรือซีเมนไตต์ (Cementite)
ลักษณะของเนื้อเหล็กละเอียดมีสีขาว
เหล็กดิบสีเทา
(Gray Pig Iron) เหล็กดิบประเภทนี้มีธาตุซิลิกอน
(Si) เป็น
ส่วนผสมที่ทำให้มีการแยกตัวของธาตุคาร์บอน ในเหล็กดิบออกมาอยู่
ในรูปของกราไฟต์ (Graphite)
ลักษณะของเนื้อเหล็ก
เป็นเม็ดเกรนเล็ก ๆ มีสีเทา
ประโยชน์ของของลมร้อนช่วยทำให้ถ่านหินเผาไหม้ได้หมดและช่วยให้เกิดคาร์บอนมอนอกไซด์
ซึ่งจะทำปฏิกิริยากับ
แร่เหล็กเกิดเป็นเหล็กคาร์บอนไดออกไซด์การใช้ลมร้อนแทนลมเย็นจะช่วยลดปริมาณถ่านหินที่ใช้ได้มากกว่า70เปอร์เซ็นต์
ลมร้อนนี้ได้จากเตาเผาหรือเครื่องอุ่นอากาศ ซึ่งประกอบด้วยถังสูงทรงกระบอกมีอุณหภูม ิประมาณ 1,000
องศาฟาเรนไฮต์
ลมร้อนนี้จะถูกเป่าเข้าไปสู่เตาทางช่องลมซึ่งอยู่รอบ ๆ
เตาเหนือช่องเทน้ำเหล็กเล็กน้อย ปูนขาวที่ผสมลงไปจะทำหน้าที่เป็น
ฟลักซ ์เพื่อทำปฏิกิริยาทางเคมีกับวัสดุที่ไม่บริสุทธิ์ในสินแร่กลายเป็นขี้ตะกรันลอย ตัวบนน้ำเหล็กที่หลอมละลาย
ขี้ตะกรันจะ
ถูกกำจัดออกเป็นระยะๆ ส่วนน้ำเหล็กจะเทออกมาทุกๆ
5 ถึง 6 ชั่วโมงต่อครั้ง
เหล็กแต่ละตันจะมีขี้ตะกรันและลมร้อน 6
ตัน ขี้ตะกรันที่ได้ใช้ผสมคอนกรีตได้ และใช้ทำฉนวนประเภทใยหินแก๊สที่ได้จากการเผาไหม้ ต้องนำมาทำความสะอาด ก่อนนำ
ไปเผาลมร้อนใช้เป็นต้นกำเนิดกำลังหรือใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับเตาอื่น
ๆ ส่วนผสมของ โลหะแท่งเราสามารถควบคุมได้โดย
การควบคุมสภาพของวัตถุดิบและส่วนผสมในอัตราส่วนต่าง ๆ
ของแร่เหล็ก