เหล็กกล้าหล่อ
เป็นเหล็กกล้าชนิดที่สามารถหล่อขึ้นรูปได้
สัญลักษณ์ย่อ :GS
ความหนาแน่น 7,85 kg/dm3
คาร์บอน 0,15...0,75%
ส่วนมากจะมีคาร์บอน ≈ 0,25%
จุดหลอมเหลว 1300 ° C
... 1400 ° C
ความต้านแรงดึง 370...690 N/mm2
ความยืด 8...25%
การหดตัว 2...8%
วีธีการผลิต
การผลิตด้วยการเทน้ำเหล็กกล้าลงในกระสวนทราย มีเป็นส่วนน้อยที่ทำการเทลงในกระสวนถาวร ที่ทำจาก แกรไฟต์หรือ
โลหะ
เป็นชิ้นส่วนที่หลังจากการหล่อแล้ว จะต้องมีการอบ(ขึ้นอยู่กับปริมาณคาร์บอน)ที่อุณหภูมิ 800 °C ถึง 900 °C
เพื่อ
ขจัด ความเครียดที่เกิดจากการหดตัวทำให้โครงสร้างเม็ดเกร็นเปลี่ยนรูป
เมื่อทำให้เย็นตัวลงเหลือ700
°Cแล้วปล่อยให้
้เย็นตัวช้าๆจะทำให้เกิดเม็ดเกร็นละเอียด ทำให้มีความเค้นดีขึ้นเพื่อป้องกันมิให้เกิดฟอง ก๊าซ CO
ในเนื้อเหล็กนี้จะต้อง
ทำการหล่อแบบเนื้อแน่น ชิ้นงานนี้เมื่อได้เชื่อมหรือ แปรรูปทางกลแล้วส่วนใหญ่จะนำไปอบคลายความเครียด เมื่อเปรียบ
เทียบกับเหล็กหล่อ จะเห็นว่า มีการหดตัวสูงกว่า
หล่อได้ไม่ดีกว่า และโอกาสเกิดโพรงอากาศก็มากกว่าเหล็กหล่อ
แต่ทว่า
จะมีความเค้น และ ความเหนียวมากกว่าเหล็กหล่อ
เนื่องจากการขึ้นรูปหล่อ เหมาะกับงาน กระสวนแบบธรรมดาจึงทำให้
มีราคาถูกกว่า
เช่น ใช้หล่อชิ้นงานแม่เหล็กถาวร
เหล็กกล้าหล่อแมงกานีสแข็ง เหล็กกล้าหล่อที่มี C ถึง 0,2%สามารถชุบ
ผิวแข็งได้
ส่วนเหล็กกล้าหล่อที่มี C =0,2
0,6% สามารถอบชุบได้
ในกรณีที่ต้องการให้มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ทนความ
ร้อน
กันสนิม หรือมีความแข็งแรงที่อุณหภูมิสูง (high temperature
Strength) ทนการสึกหรอดี
ก็สามารถเจือธาตุ ให้
เกิดคุณสมบัติตามที่ต้องการได้
การใช้งานโดยทั่วไป
การใช้งานโดยทั่วไป
สำหรับเหล็กกล้าหล่อไม่เจือหรือเจือต่ำ มีใช้งานทั่วไปถึง 7,5% ของเหล็กกล้าหล่อที่ผลิตที่ปริมาณ
คาร์บอนต่ำซึ่งจะเชื่อมประสานได้ดี
ใช้ทำชิ้นส่วนเครื่องจักร เครื่องยนต์ที่รับภาระสูง
เรือนเทอร์ไบด์ชิ้นส่วนเล็กๆ ในงาน
เครื่องกลเกษตร รถไฟ
งานสร้างเรือหรือกรณีที่ ค่าความเค้นของชิ้นงานเหล็กหล่อเทา หรือ เหล็กหล่ออบเหนียวไม่เพียง
พอชิ้นงานแม่เหล็กถาวรหล่อจะมีส่วนผสมดังนี้ 6 ถึง 13%
Al 13
ถึง 28% Ni,
0 ถึง34% Co และ 2
ถึง 5% Cu
และมี Ti
เป็นบางส่วน โดยใช้ชื่อสั้นๆ เรียกคือ AlNi120,
AlNiCo400
ส่วนผสมนี้ไม่สามารถขึ้นรูปขณะร้อนได้ จึง
ต้องหล่อในกระสวนทราย
ส่วนงานแปรผิวสำเร็จรูปจะกระทำด้วยการเจียระไน