เหล็กหล่อผสมหรือเหล็กหล่อพิเศษ
เหล็กหล่อชนิดนี้นอกจากมีคาร์บอนผสมอยู่แล้ว
ยังมีธาตุอื่นๆ ผสมเพิ่มเติมด้วย เช่นโครเมียมนิกเกิลและโมลิบดินั่ม
เป็นต้น นอกจากนี้เพื่อให้ เหล็กหล่อชนิด นี้มีความแข็งขึ้น
ทนทานต่อการเสียดสี ต้านทานแรงดึง และแรงกระแทกได้
เป็น
อย่างดี
เหล็กหล่อพิเศษ
เหล็กหล่อออสเตไนต์
(Austenitic Cast Iron)
เป็นเหล็กหล่อ ที่มีส่วนผสมสูง โดยเฉพาะยิ่ง 12...36%
Ni และ Cr มี
โครงสร้างพื้นฐานออสเตไนต์ที่มีเกล็ดแกรไฟต์ หรือแกรไฟต์กลมชนิดของเหล็กนี้มีคุณสมบัติทางฟิสิกส์
และเคมีรวม เข้า
ด้วยกัน เหนี่ยวนำเป็นแม่เหล็กไม่ได้ ทนต่อการกัดกร่อน
ทนต่อการรับความร้อนฉับพลัน ทนการเกิดผิวสะเก็ด เปราะแตก
ที่ความเย็น ทนการสึกหรอที่อุณหภูมิสูงตัวอย่างวัสดุเช่น
GGL-NiCuCr 15 6 2ใช้ทำปั๊ม
ลิ้น บู๊ช ส่วน GGG-NiMn23 4
มีความเหนียวที่อุณหภูมิถึง -196
° C ยืดตัวได้สูง ใช้ทำชิ้นงานหล่อในระบบทำความเย็น
เหล็กหล่อทนกรด
จะเจือ 14...17%
Si ที่ 0,6...0,9%C
จะแข็งมากเปราะ ถึงแม้จะมีปริมาณคาร์บอนต่ำก็ไม่จัดอยู่ใน
กลุ่มเหล็กกล้า เพราะว่าไม่สามารถขึ้นรูปด้วยการทุบได้
เหล็กหล่อทนการเสียดสี
จะมีโครงสร้างเป็นเลเดอบูไรต์
(Ledeburite) และไม่มีแกรไฟต์ โดยจะได้จากเหล็กหล่อแข็ง
ที่มีการปรับปริมาณ Si + C
เหล็กหล่อเจือทนการเสียดสีจะเจือ Cr
Mo และ Ni มีความแข็งที่เป็น โครเมียมคาร์ไบด์ในโครงสร้างพื้นฐาน มาร์เตนไซต์
หรือเบไนต์ (บางทีจะได้จากกรรมวิธีทางความร้อน)
มีความแข็ง 350...850
HV 30
เหล็กหล่อซิลิคอนพิเศษ
จะมีปริมาณ 18%
Si เจืออยู่ ทำให้เกดแกรไฟต์ได้ด ีและทำให้ปริมาณคาร์บอน ที่มีอยู่เพียงราว
0,8% พร้อมที่จะเกิดเป็นแกรไฟต์ได้
เหล็กชนิดนี้จะทนต่อกรดดินประสิวเข้มข้น กรดกำมะถันเข้มข้นที่ร้อนได้