ของฝากจากสรวงสวรรค์

                การต่อกรกับดาวเคราะห์น้อยที่มุ่งหน้าตรงมายังโลกนั้นขึ้นอยู่กับเวลาที่เหลือก่อนมันจะชนโลก “ต้องใช้เวลาสองถึงสิบปีในการพัฒนาดาวเทียมที่สามารถเบี่ยงเบนวิถีของวัตถุเช่นนั้นได้” ดร.คริสเตียน กริตซ์เนอร์ วิศวกรต้านอวกาศแห่งบอนน์ กล่าว “บวกกับเวลาที่ใช้เดินทางถึงดาวเคราะห์น้อยนั้น” จากนั้นดาวเทียมจะยึดตัวเองกับดาวเคราะห์น้อยแล้วใช้แรงขับดันจากเครื่องยนต์จรวดเปลี่ยนเส้นทางโคจรของดาวเคราะห์น้อย

          “แต่วิธีนั้นใช้ได้กับดาวตกขนาดเล็กเท่านั้น” กริตซ์เนอร์ยอมรับ “เนื่องจากจรวดในปัจจุบันสามารถบรรทุกเชื้อเพลิงออกไปในอวกาศได้ในปริมาณจำกัด” วิธีที่เป็นไปได้อีกวิธีคือการใช้ดาวเทียมยิงกระสุนไปชนดาวเคราะห์น้อยให้เบี่ยงเบนเส้นทางโคจรหรือใช้เครื่องสะท้อนแสงอาทิตย์ส่องให้เกิดความร้อนจนสารประกอบบางส่วนระเหย ซึ่งทำให้มันเปลี่ยนเส้นทางโคจรได้

          แนวคิดของฮอลลีวูดเรื่องการระเบิดดาวเคราะห์น้อยด้วยระเบิดนิวเคลียร์เป็นวิธีที่ยังมีปัญหาอยู่ แม้แรงระเบิดอาจทำให้ดาวเคราะห์น้อยแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ  แต่เศษชิ้นส่วนที่แตกออกมายังอาจพุ่งชนโลกได้นอกจากนี้ดาวเคราะห์น้อยหลายดวงยังอาจมีลักษณะเป็นเพียงเศษหินที่เดินทางเกาะกลุ่มกันมาแทนที่จะเป็นหินก้อนเดี่ยวกระสอบทรายในสนามยิงปืนรับแรงจากกระสุนได้โยไม่เสียหายฉันใด กลุ่มหินอวกาศก็อาจรับแรงระเบิดปรมาณูได้ฉันนั้น “พลังงานของการระเบิดอาจกระจายไปโดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใด ๆ” กริตซ์เนอร์กล่าว

          ดังนั้น กว่าจะแน่ใจได้ว่าการเยือนของดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่ดวงต่อไปจะไม่ทำให้เราประสบชะตากรรมเดียวกันกับไดโนเสาร์เมื่อหลายล้านปีก่อน ยังมีการวิจัยอีกมากมายที่รอเราอยู่

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2535 ชาวอเมริกันในหลายรัฐเห็นปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งคือลูกไฟพุ่งผ่านท้องฟ้าอันมืดมิด ช่างภาพวิดีโอสมัครเล่นหลายคนถ่ายภาพปรากฏการณ์นี้ไว้ได้ แต่ผู้ที่ถูกแจ็คพอตคือ มิเชล แนปป์ นักศึกษาซึ่งขณะนั้นอยู่ในห้องนั่งเล่นในบ้านพ่อแม่ที่พีกสกิลล์ ห่างจากนครนิวยอร์กไปทางทิศเหนือประมาณ 60 กิโลเมตร อุกกาบาตน้ำหนัก 12.4 กิโลกรัมตกลงบนท้ายรถเธอที่จอดอยู่หน้าบ้าน ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ทุกวันนี้เจ้าของรถคนใหม่ของรถคันนี้ ให้ยืมรถไปจัดนิทรรศการทั่วโลก

1. เทหวัตถุจากอวกาศ
2. ฝุ่นอวกาศ
3. ไดโนเสาร์สูญพันธุ์
4. Armageddon     
5. ของฝากจากสรวงสวรรค์