จริงและเท็จ แต่ถ้าเราไม่ได้ก้าวขา เราจะสามารถก้าวหน้าไปขั้นต่อไปได้อย่างไรล่ะคะ ฉะนั้น เมื่อพลังงานความคิดแยกอยู่ที่คนละขั้นกันแล้ว ก็ย่อมเกิดเป็นภาวะของความขัดแย้งขึ้น ก็เท่านั้นเอง เป็นธรรมดาแล้วก็จะผ่านไป เมื่อขาทั้ง 2 ข้างไปอยู่พร้อมกันบนขั้นต่อไป หรือเมื่อความคิดเคลื่อนมาใกล้กันมากขึ้น ความขัดแย้งก็จะค่อย ๆ ลดลงไป ความสอดคล้องพร้อมเพรียงก็จะเกิดได้เอง ความสอดคล้องพร้อมเพรียงไม่ได้แปลว่าความคิดนั้นถูก เพียงแปลว่าความคิดเหล่านั้นใกล้เคียงกัน เช่นเดียวกัน ความขัดแย้งก็ไม่ได้แปลว่าสิ่งนั้นไม่ดี หรือเพราะฝ่ายใดผิด ฝ่ายใดถูกกเพียงฝ่ายเดียว แต่ทั้งนี้เนื่องจากเป็นความเคยชินที่เรามองกันมาว่า ความขัดแย้งเป็นสิ่งที่ไม่ดี เราก็เลยออกจะตกอกตกใจ หรือพยายามหนีจากความขัดแย้งนั้นหรือไม่อีกที ก็เอาอารมณ์ไปร่วมกับความขัดแย้งนั้นด้วยเสียเอง ถ้าโลกนี้ไม่มีความขัดแย้งในทางความคิดกันเสียเลย โลกคงไม่มี่การคิดค้นสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ แน่นอน ความขัดแย้งเป็นของธรรมดาไม่ใช่สิ่งเสียหาย แต่เป็นเพราะอารมณ์พฤติกรรมและเจตนาที่ร่วมใส่ไปด้วยต่างหาก ที่ทำให้กลายเป็นผลลัพธ์ซึ่งไม่ค่อยน่าพึงพอใจนัก แล้วจึงทำให้คนเราไม่ชอบความขัดแย้งเสียเลย การใช้ชีวิตในสหัสวรรษใหม่คงไม่ต้องกลัวหรือหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง แต่ควรฟังทุกทาง แบบฟังหูไว้หู และใช้ความละเอียดลออในการตรวจข้อมูลมากขึ้น ก่อนจะสรุปอะไร ที่สำคัญเมื่อสรุปแล้วก็ไม่ต้องไป ติด ว่ามีแค่ความคิดหรือความเชื่อแบบเดียวเท่านั้นที่ถูกต้อง
| |
หน้าที่
| |
ของ
อมรา ตัณฑ์สมบุญ ฟิสิกส์ราชมงคลขอขอบคุณครับ |
![]() |
![]() |
![]() |
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ฟิสิกส์ 1 | หนังสือฟิสิกส์ 1 ภาคกลศาสตร์ | หนังสือฟิสิกส์ 1 ภาค ของไหล ความร้อนและคลื่น |