
นักเคมีของโลก
1. จอห์น ทินดอลล์ ( John
Tyndol )
ชาวไอร์แลนด์ / นักวิทยาศาสตร์
- ค้นพบการมองเห็นลำแสงที่ผ่านคอลลอยด์ซึ่งเรียกว่า " การกระเจิงของแสง "
2. จอห์น ดอลตัน
( John Dolton )
ชาวอังกฤษ / นักเคมี
- เสนอการใช้ภาพแทนสัญลักษณ์ของธาตุ
- ศึกษามวลอะตอมของธาตุจากการสังเกตธาตุที่รวมกันเป็นสารประกอบ โดยค้นพบว่า
ธาตุไฮโดรเจนมีมวลน้อยที่สุด
- เชื่อว่า อะตอมของธาตุต่างชนิดมีมวลไม่เท่ากัน
ซึ่งเป็นผู้เทียบว่าอะตอมของธาตุชนิดหนึ่งเป็นกี่เท่าของอะตอมของอีกธาตุหนึ่ง
- เสนอแบบจำลองอะตอมรูปทรงกลมกลวง ดังภาพ

3. โจนส์
จาคอบ เบอร์ซีเรียส ( Jons Jacob Barsilius )
ชาวสวีเดน / นักเคมี
- เสนอให้ใช้ตัวอักษรแทนสัญลักษณ์ของธาตุ
4. ดิโมเครตุส
( Dimocritus )
ชาวกรีก / นักปราชญ ์
- ให้ความเชื่อว่าสารต่าง ๆ
จะประกอบด้วยอนุภาคขนาดเล็กที่สุดซึ่งไม่สามารถแบ่งย่อยต่อไปได้ซึ่งเรียกอนุภาคนี้ว่า
" อะตอม "
( Atoms )
5. เบนจามิน (
Benjamin )
ชาวอังกฤษ / นักวิทยาศาสตร์
- เป็นผู้จุดประกายการสร้างหลอดรังสีแคโธด และ
การนำไฟฟ้าภายในตัวกลางที่เป็นก๊าซ
6. เซอร์วิลเลียมส์
ครุกส์ ( Sir. William crukes )
ชาวอังกฤษ / นักวิทยาศาสตร์
- เป็นผู้ทดลองเกี่ยวกับหลอดรังสีแคโธด
7. เซอร์โจเซฟ จอห์น
ทอมสัน ( Sir. John Tomson )
ชาวอังกฤษ / นักวิทยาศาสตร์
- เป็นผู้ค้นพบอนุภาคที่เรียกว่า " ฮิเลคตรอน "
ซึ่งมาจากการทดลองโดยใช้การเบี่ยงเบนของอนุภาคประจุลบในหลอดรังสีแคโธด
- เสนอแบบจำลองอะตอมที่เป็นทรงกลมที่ทมีทั้งประจุบวก และ
ประจุลบอยู่อย่างเท่ากัน ดังภาพ
8. ออยเกน โกลด์ชไตน์
( Oilgen Goldstein )
ชาวเยอรมัน / นักวิทยาศาสตร์
- ค้นพบอนุภาคที่เรียกว่า " โปรตอน " ( Proton )
ซึ่งมาจากการทดลองโดยเจาะรูที่รังสีแคโธด และ แอโนด แล้วสังเกตภาพ
ที่ฉากเรืองแสง
- คิดคำนวณค้นพบมวลของโปรตอนมีค่าเท่ากับ 1.66 X 10-24 กรัม
และมีประจุเท่ากับ 1.6 X 10-19 คูลอมบ์
9. โรเบิร์ต แอนดรูส์
มิลิแกน ( Robert Andrews Miligan )
ชาวอเมริกัน / นักวิทยาศาสตร์
- ค้นพบว่าอิเลคตรอนมีประจุเท่ากับ 1.6 X 10-19 คูลอมบ์ และ
คำนวณหามวลของอิเลคตรอนเท่ากับ 9.11 X 10-28 กรัม
10. ลอร์ด ออร์เนสต์
รัทเทอร์ฟอร์ด ( Lord Ernert Rutherford )
ชาวอังกฤษ / นักวิทยาศาสตร์
- สร้างการทดลองโดยใช้การยิงอนุภาคแอลฟาไปยังแผ่นทองคำ ( Au )
แล้วสังเกตการหักเหบนฉากเรืองแสง ( ZnS )
-
เสนอแบบจำลองอะตอมมีลักษณะทรงกลมกลวงโดยภายในมีนิวเคลียสอยู่บริเวณกลางของอะตอม
ดังภาพ
11. ฮันส์ ไกเกอร์ (
Hans Giger )
ชาวเยอรมัน / นักวิทยาศาสตร์
- ร่วมคิดค้นเช่นเดียวกับรัทเทอร์ฟอร์ด
12. เชอร์ เจมส์
แชดวิก ( Sir. James Chadwick )
ชาวอังกฤษ / นักวิทยาศาสตร์
- เป็นผู้ค้นพบอนุภาคที่เรียกว่า " นิวตรอน " ( Neutron )
จากการทดลองยิงอนุภาคแอลฟาไปยังอะตอมต่าง ๆ
- คิดคำนวณมวลของนิวตรอน เท่ากับ 1.675 X 10-24 กรัม
13. เฟรเดอริก ซอดดี
( Freaderic Soddy )
ชาวอังกฤษ / นักเคมี
- เป็นผู้เรียกอะตอมของธาตุเดียวกันที่มีเลขมวลต่างกันว่า " ไอโซโทป " (
Isotope )
- ไอโซโทป มีทั้งในธรรมชาติ และ เกิดจากการสังเคราะห์ เช่น ไฮโดรเจน จะมี 3
ไอโซโทป ที่มีชื่อเฉพาะเรียกว่าโปรเทียม ( 1H )
, ดิวทีเรียม ( 2H ) , ทริเทียม ( 3H )
14. มักซ์ คาร์ล
แอนสต์ ลุดวิก พลังค์ ( Max Karl Ernert Ludwig Plack )
ชาวเยอรมัน / นักวิทยาศาสตร์
- เป็นผู้ศึกษาพลังงานของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
และได้ข้อสรุปถึงความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากับความถี่ของ
คลื่น
- โดยในความสัมพันธ์มีใจความว่า " พลังงานของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
จะเป็นสัดส่วนโดยตรงกับความถี่ของคลี่น " โดยสรุปเป็นสูตร
คือ 
15. โรเบิร์ต บุนเซน
( Robert Bunsen )
ชาวเยอรมัน / นักวิทยาศาสตร์
- เป็นผู้พัฒนาตจะเกียงก๊าซให้เปลวไฟปราศจากสี ซึ่งช่วยให้ศึกษาสีของเปลวไฟได้ง่าย
16. กุสตาฟ โรเบิร์ด คีร์ชฮอฟฟ์ ( Gustav Robert
Kirchhoff )
ชาวเยอรมัน / นักวิทยาศาสตร์
- เป็นผู้ประดิษฐ์สเปกโตรสโคปซึ่งใช้ในการศึกษาสเปคตรัมที่ได้จากการเผาเพื่อหาองค์ประกอบของสารได้
17. นีลส์ โบร์ ( Niels Bohr )
ชาวเดนมาร์ก / นักวิทยาศาสตร์
- เป็นผู้เสนอแบบจำลองอะตอมเพื่อใช้อธิบายลักษณะของอิเลคตรอนที่ปรากฏอยู่รอบนิวเคลียสได้
- ใจความของแบบจำลองอะตอมนี้มีอยู่ว่า " อิเลคตรอนจะเคลื่อนที่รอบนิวเคลียสเป็นวงคล้ายกับวงโคจรของดาวเคราะห์
รอบดวงอาทิตย์แต่ละวงจะมีระดับพลังงานเฉพาะตัว และ เรียกระดับพลังงาน ของอิเลคตรอนที่อยู่ใกล้นิวเคลียสที่สุด
ซึ่งมีระดับพลังงานต่ำสุดว่า " ระดับพลังงาน K " และถัดออกไปเรื่อย ๆ
ตามพยัญชนะในภาษาอังกฤษ "
18. เดอร์เบอร์ ไลเนอร์ ( Debour Liner )
ชาวเยอรมัน / นักวิทยาศาสตร์
- เป็นผู้เสนอกฎของการจัดเรียงตารางธาตุแบบกลุ่มที่เรียกว่า " กลุ่ม 3 "
- โดยกำหนดใช้เลขมวลอะตอม ในการหาเลขมวลอะตอมอื่น ๆ เช่น ลิเธียม ( Li ) ,
โซเดียม ( Na ) , โพแทสเซียม ( K )
แต่ก็ไม่สามารถใช้ได้จึงถูกลบล้างไป
19. จอห์น นิวแลนด์ ( John Newland )
ชาวอังกฤษ / นักวิทยาศาสตร์
- เป็นผู้เสนอกฎในการจัดเรียงตารางธาตุให้เป็นหมวดหมู่
- ใจความของกฎ คือ ถ้าเรียงธาตุตามมวลอะตอมจากน้อยไปมาก พบว่า ธาตุที่ 8
จะมีสมบัติเหมือนกันธาตุที่ 1 เสมอ
( ไม่รวมธาตุไฮโดรเจน และ ก๊าซเฉื่อย )
แต่ในกฎนี้มีการใช้อธิบายได้ถึงธาตุแคลเซียม ( Ca ) แต่ก็ถูกลบล้างไป
20. ยูลิอิส โลทาร์ ไมเออร์ ( Julius Lothar Meyer )
ชาวเยอรมัน / นักวิทยาศาสตร์
- ได้ศึกษารายละเอียดของธาตุต่าง ๆ มากชึ้น
โดยเรียงธาตุตามมวลอะตอมจากน้อยไปมาก จะพบว่าธาตุมีสมบัติคล้ายกันเป็นช่วง ๆ
21.ดิมิทรี อิวา - โนวิช เมนเดเลเอฟ ( Dimitri Iva -
Novich Mendelejev )
ชาวรัสเซีย / นักวิทยาศาสตร์
- คิดค้นเช่นเดียวกับไมเออร์ ซึ่งเมนเดเลเอฟเป็นผู้ตั้งกฎที่เรียกว่า "
กฎพีรีออดิก "
- ข้อที่น่าสังเกต คือ การจัดธาตุเป็นหมวดหมู่ของเมนเดเลเอฟไม่ได้ยึดการเรียงลำดับตามมวลอะตอมจากน้อยไปมาก เพียงอย่างเดียว
แต่ได้นำสมบัติที่คล้ายคลึงกันของธาตุมาเรียงตามความสัมพันธ์ในแต่ละธาตุ
22. เฮนรี กวิน เจฟฟรี่ส์ โมสลีย์ ( Henry Gwyn
Jeffreys Moseley )
ชาวอังกฤษ / นักวิทยาศาสตร์
- เสนอให้จัดธาตุเรียงตามเลขอะตอม เนื่องจากสมบัติต่าง ๆ ของธาตุมีความสัมพันธกับประจุบวกในนิวเคลียส หรือ
เลขอะตอม
มากกว่ามวลอะตอม
23. ไลนัส พอลิง ( Linus Poiling )
ชาวอเมริกัน / นักเคมี
- เสนอการกำหนดค่าแสดงความสามารถในการดึงดูดอิเลคตรอนของธาตุ เรียกว่า "
อิเลคโทรเนกาติวิตี้ " ธาตุที่มีอิเลคโทรเนกาติวิตี้
สูง จะมีความสามารถในการดึงดูดอิเลคตรอนได้ดีกว่าธาตุที่มีค่าอิเลคโทรเนกาติวิตี้ต่ำ
ๆ
24. อองตวน - โลรอง ลาวัวซิเอ ( Antoine - Laurent
Lavoisier )
ชาวฝรั่งเศส / นักเคมี
- ทดลองเผาสารในหลอดทดลองที่ปิดสนิทพบว่า
"มวลรวมของสารก่อนเกิดปฏิกิริยาเท่ากับมวลรวมของสารหลังเกิดปฏิกิริยา"
จึงได้ตั้งกฎที่เรียกว่า " กฎทรงมวล "
25. โจเซฟ เพราสต์ ( Joseph Prouste )
ชาวฝรั่งเศส / นักวิทยาศาสตร์
-
ทดลองศึกษาการเตรียมสารประกอบบางชนิดพบว่าสารประกอบชนิดหนึ่งที่เตรียมด้วยวิธีการที่แตกต่างกันมีอัตราส่วนโดยมวล
ของธาตุที่รวมกันเป็นสารประกอบคงที่เสมอจึงตั้งเป็นกฎที่เรียกว่า "
กฎสัดส่วนคงที่ "
26. โจเซฟ - หลุยส์ เกย์ - ลูสแซก ( Joseph - Loius
Gay - Lussac )
ชาวฝรั่งเศส / นักเคมี
- ทดลองวัดปริมาตรของก๊าซที่ทำปฏิกิริยาพอดีกัน และ ปริมาตรของก๊าซที่ได้จากปกิกิริยา
ณ อุณหภูมิ และ ความดันเดียวกัน
แล้วสรุปเป็นกฎของการรวมปริมาตรของก๊าซว่า "
อัตราส่วนระหว่างปริมาตรของก๊าซที่ทำปฏิกิริยาพอดีกัน และ ปริมาตร
ของก๊าซที่ได้จากปฏิกิริยา เมื่อวัดที่อุณหภูมิ และ
ความดันเดียวกันจะเป็นเลขลงตัวน้อย ๆ "
27. อาเมเดโอ อโวกาโดร ( Amedeo Avocadro )
ชาวอิตาลี / นักวิทยาศาสตร์
- อธิบายว่าการที่อัตราส่วนโดยปริมาตรของก๊าซที่เข้ามาทำปฏิกิริยา และ
ที่ได้จากปฏิกิริยาเป็นจำนวนเต็มลงตัวน้อย ๆ
28. สตานิสลาฟ คันนีดซาโร ( Stanislav Cannizzaro )
ชาวอิตาลี / นักเคมี
- อธิบายสมมุติฐานของอโวกาโดรโดยใช้ผลการทดลองเกี่ยวกับปริมาตรของก๊าซต่าง ๆ
และ ได้เสนอว่าธาตุที่เป็นก๊าซจะอยู่เป็น
โมเลกุล
ซึ่งในโมเลกุลจะประกอบด้วยอะตอมที่เหมือนกันเป็นจำนวนคู่ที่น้อยที่สุด
29. รอเบิร์ต บอยล์ ( Robert Boyle )
ชาวอังกฤษ / นักวิทยาศาสตร์
- ศึกษาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ และ ความดันของก๊าซ
- สามารถสรุปเป็นกฎที่มีชื่อว่า " กฎของบอยล์ " ซึ่งมีสาระสำคัญ คือ " เมื่ออุณหภูม
และ มวลของก๊าซคงที่ปริมาตรของก๊าซ
จะแปรผกผันกับความดัน
30. จากซ์ - อาเล็กซองดร์ เซซา ชาร์ล ( Jacques -
Alexandre - Cesar Charles )
ชาวฝรั่งเศส / นักวิทยาศาสตร์
- ได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอุณหภูมิกับปริมาตรของก๊าซ และ
เสนอกฎที่เรียกว่า " กฎของชาร์ล " โดยมีใจความว่า
" เมื่อมวล และ ความดันของก๊าซคงที่ปริมาตรของก๊าซจะแปรผันตรงกับอุณหภูมิเคลวิน
"
31.
อองตวน อองรี เบกเคอเรล (
Antoine Anley
Bagkerel )
ชาวฝรั่งเศส
/
นักวิทยาศาสตร์
-
ค้นพบการแผ่รังสีของธาตุยูเรเนียมด้วยการห่อยูเรเนียมด้วยฟิล์มถ่ายรูป
32.
ปิแอร์ คูรี่ (
Pierre Curie )
ชาวฝรั่งเศส
/
นักวิทยาศาสตร์
-
ค้นพบกัมมันตรังสีอื่น ๆ
เช่น พอโลเนียม
,
เรเดียม และ ทอเรียม
สามารถแผ่รังสีได้ซึ่งจากการนำไปใช้ทางการแพทย์ได้
33.
แมร์รี่ คูรี่ (
Marie Curie )
ชาวฝรั่งเศส
/
นักวิทยาศาสตร์
-
ค้นพบเช่นเดียวกับ
ปิแอร์
34.
เฮนรี่ - หลุยส์ เลอชาเตอลิเอ (
Henry
Louis LeChaterlier )
ชาวฝรั่งเศส
/
นักวิทยาศาสตร์
-
ศึกษาการเปลี่ยนแปลงภาวะสมดุลของปฏิกิริยาต่าง ๆ โดยมีใจความดังนี้
"
เมื่อระบบที่อยู่ในภาวะสมดุลถูกรบกวนโดยการเปลี่ยน
แปลงปัจจัยที่มีต่อภาวะสมดุลของระบบ
ระบบจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่จะลดผลของการรบกวนนั้นเพื่อให้ระบบ
เข้าสู่ภาวะสมดุลอีกครั้ง
"
35.
ฟริตซ์ ฮาเบอร์ (
Fritz Haber )
ชาวเยอรมัน
/ นักเคมี
-
ได้ศึกษาหลักของเลอชาเตอลิเอ
แล้วนำไปปรับปรุงโดยคิดวิธีการเตรียมก๊าซแอมโมเนียในอุตสาหกรรม
โดยได้ข้อสรุป คือ
การเพิ่มอุณหภูมิ
ความดัน โดยมีสารพวกคะตะเลสเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา
36.
สวันเต เอกุสต์ อาร์เรเนียส (
Svante August
Arrhenius )
ชาวสวีเดน
/ นักเคมี
-
ได้ตั้งทฤษฎีโดยให้นิยามว่า
" กรด คือ
สารที่ละลายแล้วแตกตัวให้ไฮโดรเจนไอออน
" และ
" เบส
คือสารที่ละลายน้ำ
แล้วแตกตัวให้ไฮดรอกไซด์ไอออน
"
37.
โยฮันเนส นิโคเลาส์ เบรินสเตด (
Johannes
Nicrolaus Bronsted )
ชาวอังกฤษ
/ นักเคมี
-
ให้นิยามว่า
" กรด คือ
สารให้โปรตอนแก่สารอื่น
" และ
" เบส
คือสารที่รับโปรตอนจากสารอื่น
"
38.
ทอมัส มาร์ติน ลาวรี (
Thomas Martin
Lowry )
ชาวอังกฤษ
/ นักเคมี
-
เช่นเดียวกับเบรินสเตด
39.
ซอเรน ปีเตอร์ ลอริตซ์ ซอเรนซัน
( Soren Peter Letes Sorensen )
ชาวเดนมาร์ก
/ นักเคมี
-
ได้เสนอค่าความเข้มข้นของ
H3O+
เป็นค่า
pH
โดยกำหนดให้
pH มีค่าเท่ากับ -
log [ H3O+
]
40.
อาร์โนล์ด โอ แบคมาน (
Arnold O
Becmarn )
ชาวอเมริกัน
/
นักวิทยาศาสตร์
- คิดเครื่องพีเอชมิเตอร์
( pH metre )
ใช้ในการบอกค่าความเป็นกรด - เบสของสารละลาย
41.
ฟรีดริซ เวอเลอร์ (
Fedizh Veirer )
ชาวเยอรมัน
/
นักวิทยาศาสตร์
- สามารถสังเคราะห์ยูเรียซึ่งเป็นสารอินทรีย์จากสารอนินทรีย์ได้
นำมาจาก



ครั้งที่
เซ็นสมุดเยี่ยม
ประวัตินักวิทยาศาสตร์
|